3.9G นั้นเป็นชื่ออย่างไม่เป็นทางการของเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ เหมือนอย่างที่เราเรียก GPRS ว่า 2.5G และ HSDPA ว่า 3.5G ตัวเลขเหล่านี้ถือเป็น 'ชื่อเล่น' ทาง ITU ผู้กำหนดมาตรฐานทางโทรคมนาคม ได้กำหนดเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็น 1G, 2G, 3G เท่านั้นที่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ ส่วน 4G กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการเพื่อรับรองเทคโนโลยีการแบ่งเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกเป็นยุคๆ มีรายละเอียดดังนี้
ความหมายของโทรศัพท์มือถือโทรศัพท์มือถือ หรือ โทรศัพท์เคลื่อนที่ (และมีการเรียก วิทยุโทรศัพท์) คืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสารสองทางผ่าน โทรศัพท์มือถือใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่านสถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของโทรศัพท์บ้านและเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่น โทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นในลักษณะคอมพิวเตอร์พกพาจะถูกกล่าวถึงในชื่อสมาร์ตโฟน
โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากจากความสามารถพื้นฐานของโทรศัพท์แล้ว ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานของโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การส่งข้อความสั้นเอสเอ็มเอส ปฏิทิน นาฬิกาปลุก ตารางนัดหมาย เกม การใช้งานอินเทอร์เน็ต บลูทูธ อินฟราเรด กล้องถ่ายภาพ เอ็มเอ็มเอส วิทยุ เครื่องเล่นเพลง และ จีพีเอส
โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องแรกถูกผลิตและออกแสดงในปี พ.ศ. 2516 โดย มาร์ติน คูเปอร์ (Martin Cooper) นักประดิษฐ์จากบริษัทโมโตโรลา เป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักประมาณ 1.1 กิโลกรัม ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่โทรโลก เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2543 ที่มีจำนวน 12.4 ล้านคน มาเป็น 4,600 ล้านคน
วิวัฒนาการของโทรศัพท์มือถือ
1G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบระบบอนาล็อก analog ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น NMT, AMPS, DataTac เริ่มแพร่หลายราวปี 1980s ที่รู้จักกันดีคือเทคโนโลยี NMT จากฝั่งยุโรปและ AMPS จากฝั่งอเมริกา
2G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบระบบดิจิตอล digital ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น GSM, cdmaOne, PDC เริ่มเข้ามาในปี 1990s มีเทคโนโลยีที่เรารู้จักกันดีคือ GSM (ปัจจุบันให้บริการโดย AIS, DTAC, และ True Move) และ CDMA (ให้บริการโดย Hutch และ CAT) ในค่ายของ GSM
2.5G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่เริ่มนำระบบ packet switching มาใช้ ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น GPRS
2.75G ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น CDMA2000 1xRTT, EDGE
3G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่มีความสามารถครบทั้งการสื่อสารด้วยเสียงและข้อมูลรวมถึงวีดิโอ ระบบที่จัดอยู่ในยุคนี้เช่น W-CDMA, TD-SCDMA, CDMA2000 1x-EVDO ปี 1999 IMT-2000 ได้รับรองเทคโนโลยี 5 ชนิดว่าเป็นเทคโนโลยี 3G คือ IMT-DS (WCDMA), IMT-MC (CDMA2000), IMT-TC (TD-SCDMA และ UTRA-TDD), IMT-SC (Evolved EDGE), และ IMT-FT (DECT โทรศัพท์บ้านแบบไร้สาย) ต่อมาในปี 2007 ก็ได้รวมมาตรฐาน IP-OFDMA (IEEE 802.16 หรือ WiMAX) เข้าไปใน IMT-2000 ด้วย ทำให้ WiMAX เป็นเทคโนโลยี 3G ด้วยเช่นกัน
3.5G ระบบโทรศัพท์มือถือแบบ digital ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงขึ้นกว่า 3G เช่น HSDPA ใน W-CDMA
4G ระบบโทรศัพท์มือถือที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ เชื่อกันว่าโทรศัพท์มือถือในยุคนี้จะสามารถสนับสนุน แอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิธสูงเช่น ความจริงเสมือน 3 มิติ (3D virtual reality) หรือ ระบบวิดีโอที่โต้ตอบได้ (interactive video)
ในค่ายของ GSM นั้นการที่จะพัฒนาไป 3G หนีไม่พ้นเทคโนโลยี UMTS ซึ่งใช้ air interface เป็น WCDMA (UMTS เป็นชื่อของระบบใหญ่ โดยมีเทคโนโลยีที่ใช้รับ-ส่งสัญญาณผ่านอากาศเรียกว่า WCDMA) เรามักเรียก WCDMA ว่าเป็น 3G และมีเทคโนโลยีต่อยอดเช่น HSDPA (3.5G) และ HSUPA (3.75G) หรือเรียกรวมว่า HSPA เมื่อจะพัฒนาต่อไปให้ได้ความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลสูงขึ้น มีการเสนอให้เปลี่ยนจากเทคโนโลยีพื้นฐานจาก CDMA มาเป็น OFDMA ซึ่งก็ได้ออกมาเป็นเทคโนโลยี LTE (3.9G) โดยในระยะหลังมักมีคนเอา LTE มาโฆษณาว่าเป็นเทคโนโลยี 4G ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ถูกต้อง ในระหว่างที่ LTE ออกมานั้น HSPA ก็ยังคงพัฒนาต่อไปเรียกว่า HSPA+ มีข้อดีคือสามารถอัพเกรดมาเป็น HSPA+ ง่ายกว่าและถูกกว่า LTE แต่ประสิทธิภาพไม่ได้เหนือไปกว่า LTE บางที HSPA+ ก็ถูกเรียกว่า 3.8G หรือไม่ก็ 3.85G (เนื่องจากมีหลายเวอร์ชั่นและเพื่อไม่ให้ตัวเลขสูงกว่า 3.9G ของ LTE) โดยทั่วไปแล้วไม่ค่อยมีคนเรียก 3.8G/3.85G แต่จะเรียก HSPA+ ตรงๆ ไปเลย
ปี 2008 ITU ประกาศรายละเอียดมาตรฐาน 4G ในชื่อของ IMT-Advanced โดยคร่าวๆ สามารถรองรับความเร็วการดาวน์โหลดที่ 1 Gbps เมื่ออยู่กับที่ และ 100 Mbps เมื่อเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง จะเห็นว่าข้อกำหนดดังกล่าวหินจริงๆ และแน่นอนว่ายังไม่มีเทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถรองรับได้ เทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาไปสู่ 4G มีอยู่ 2 ค่ายคือ LTE-Advanced และ WiMAX IEEE 802.16m
ถ้าสรุปง่าย ๆ คือเราสามารถเรียกว่า 3.9 generation - Long-Term Evolution ก็ได้ โดยเป็นเทคโนโลยี ยุคที่ 3.9 ของโทรศัพท์ มันจะรวมเอา 3 จี เข้ากับ จีพีอาร์เอส ทำให้มีความเร็วมากขึ้นและรองรับการใช้งานทีมากกว่าเดิม มีแบนวิดกว้างขึ้น ส่งข้อมูล ได้ทีละมากขึ้น ใกล้เคียงกัน 4 จีมากเลย โดยได้นำเอาระบบ เกี่ยวกับ G ทั้งหลายมาให้ดูกัน
2G = GSM
2.5G = GPRS
2.75G = EDGEThen moving onto 3G systems:
3G = WCDMA, R99
3.5G = HSDPA
3.75G = HSUPA
3.8G = HSPA+ (HSPA Enhancements)
3.85G = 'HSPA+' + MIMO3.9G = LTE4G = NOT WiMAX
ถ้าดูจริง ๆ 3.9 จี ก็ไวกว่า 3 จี อย่างน้อยประมาณ 20 เท่า ซึ่งสาเหตุที่ไม่กระโดดไป 4G นั้นเป็นเพราะ 3.9G นั้นอัพเกรดได้ง่ายกว่าและมีความพร้อมในเชิงพาณิชย์มากกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น